เมนู

เสโท เหงื่อ


ต่อแต่นั้นไป ก็กำหนดว่า โดยวรรณะ เหงื่อ ในสรีระมีสีเหมือนน้ำ
มันงาใส. โดยสัณฐาน มีสัณฐานเหมือนโอกาส โดยทิศเกิดในทิศทั้งสอง.
โดยโอกาส ธรรมดาเหงื่อจะออกอยู่เป็นนิจ หามีไม่ หากแต่เหงื่อมีอยู่ทุกเมื่อ
หรือเพราะเหตะที่เวลาใด สรีระ เร่าร้อน เพราะร้อนไฟแสงแดดและฤดูวิปริต
เป็นต้น เวลานั้น เหงื่อจะไหลออกจากทุกรูผมและขุมขน เหมือนน้ำในกำ
เง่าบัวและก้อนบัวที่ตัดไม่เรียบพอยกขึ้นพ้อน้ำ ฉะนั้น พระโยคาวจรจึงกำหนด
เหงื่อนั้น โดยสัณฐาน ด้วยรูผมและขุมขนเหล่านั้น ท่านบุรพาจารย์ทั้งหลาย
กล่าวไว้ว่า อันพระโยคาวจร ผู้กำหนดเอาเหงื่อเป็นอารมณ์ พึงมนสิการใส่
ใจเหงื่อ โดยที่เหงื่อทำรูผมและขุมขนให้เต็มแล้วตั้งอยู่.
ในเหงื่อนั้น กำหนดว่า เหงื่อย่อมไม่รู้ว่า เราไหลออกจากรูผมและ
ขุมขน แม้รูผมและขุมขนก็ไม่รู้ว่า เหงื่อไหลออกจากเรา เปรียบเหมือนน้ำที่
ไหลออกจากช่องกำเหง้าบัวและก้านบัว ย่อมไม่รู้ว่า เราไหลออกจากช่องเหง้า
บัวและก้านบัว แม้ช่องเหง้าบัวและก้านบัว ก็ไม่รู้ว่าน้ำไหลออกจากเราฉะนั้น
ด้วยว่าธรรมเหล่านั้น เว้นจากความคิดคำนึงและการพิจารณา ฯลฯ ไม่ใช่บุคคล.
โดยปริเฉทกำหนดว่า เหงื่อตัดตอนด้วยส่วนแห่งเหงื่อ นี้เป็นกำหนดเหงื่อนั้น
โดยสภาค. ส่วนการกำหนดโดยวิสภาค ก็เช่นเดียวกับผมนั่นแล. กำหนดเหงื่อ
โดยวรรณะเป็นต้น มีประการดังกล่าวมาฉะนี้.

เมโท มันข้น


ต่อแต่นั้นไป ก็กำหนดว่า โดยวรรณะนั้น มันข้นระหว่างหนังและเนื้อ
ในสรีระ มีสีเหมือนขมิ้นผ่า โดยสัณฐาน มีสัณฐานเหมือนโอกาส จริงอย่าง
นั้น สำหรับคนตัวอ้วนมีสุข มันขันที่แผ่ไประหว่างหนังและเนื้อ มีสัณฐาน